การสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นดีกว่าชั้นเดียวอย่างไร- เซฟตี้อินไทย
อบรมหลักสูตรฟรี 2567          คลิกที่นี่

บทความ

การสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นดีกว่าชั้นเดียวอย่างไร



การสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น

ดีกว่าชั้นเดียวอย่างไร


หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าหรือ ‘มาสก์’ (Mask) ป้องกันการแพร่โรคโควิด-19 เพราะมีคุณสมบัติในการป้องกันละอองน้ำลาย น้ำมูก เสมหะกระเด็น ‘ออก’ จากผู้สวมหน้ากากอนามัย และป้องกันการสูดหายใจเอาละอองเหล่านี้ ‘เข้า’ สู่ร่างกายได้ ซึ่งทุกคนควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น
 
ก่อนจะพูดถึงหน้ากากอนามัย 1 หรือ 2 ชั้น ขอสรุปว่าหลักการสวมหน้ากากอนามัยสั้นๆ 2 ข้อคือ
 
สวมหน้ากากอนามัยคลุมทั้งจมูกและปากให้กระชับ ไม่ควรมีช่องว่างให้อากาศลอดผ่านเข้ามาได้ เช่น หน้ากากอนามัยจะมีลวดอยู่ด้านบน ต้องกดลวดให้แนบกับสันจมูก ระมัดระวังหน้ากากอนามัยเลื่อนลงจากจมูกเวลาพูดไปนานๆ และไม่เลื่อนหน้ากากอนามัยลงมาอยู่ที่ใต้คางโดยไม่จำเป็น เป็นต้น
 
เลือกหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันละอองทางเดินหายใจ หน้ากากที่เหมาะสมคือ หน้ากากอนามัย (Surgical Mask) หรือหน้ากากผ้าก็ได้ แต่สำหรับหน้ากากผ้าควรเลือกหน้ากากที่มีหลายชั้น เส้นใยแน่น หายใจสะดวก อาจทดสอบด้วยการส่องกับหลอดไฟแล้วสามารถกั้นแสงได้
 
ส่วนการสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น มีที่มาจากงานวิจัยของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐฯ (CDC) ที่ตีพิมพ์ในวารสาร MMWR เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา โดยการทดลองแรกให้หุ่นสวมหน้ากากอนามัยแบบต่างๆ แล้วจำลองการไอ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพในการป้องกันละอองที่กระเด็นออกมา พบว่า
 
หน้ากากอนามัย 56.1%
หน้ากากผ้า 51.4%
หน้ากากอนามัย+หน้ากากผ้า = 2 ชั้น 85.4%
หน้ากากอนามัยที่ผูกสายคล้องเป็นปม 77.0%
 
เนื่องจากถ้าสังเกตเวลาสวมหน้ากากอนามัย ตรงด้านข้างของใบหน้าทั้ง 2 ข้างจะมีช่องว่างเกิดขึ้น หรือหน้ากากผ้าก็อาจหลวมไม่พอดีกับใบหน้า ถ้าผู้สวมหน้ากากอนามัยมีอาการไอก็จะมีละอองรั่วออกไปได้ การสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นคือหน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัยจึงช่วยปิดช่องว่างนี้ และเพิ่มประสิทธิภาพได้
 
และการทดลองต่อมาใช้หุ่น 2 ตัว ให้หุ่นตัวแรก (A) จำลองการไอ ส่วนหุ่นอีกตัว (B) จำลองเป็นผู้รับละอองจากการไอ พบว่า

สำหรับหน้ากากอนามัยปกติจะมีประสิทธิภาพ 
A: ไม่สวม / B: สวม = 7.5%
A: สวม / B: ไม่สวม = 41.3%
A/B สวมทั้งคู่ = 83.0%
 
หน้ากากอนามัย 2 ชั้น มีประสิทธิภาพ
A: ไม่สวม / B: สวม = 83.0%
A: สวม / B: ไม่สวม = 82.2%
A/B สวมทั้งคู่ = 96.4%
 
หน้ากากอนามัยที่ผูกสายคล้องเป็นปม มีประสิทธิภาพ
 A: ไม่สวม / B: สวม = 64.5%
A: สวม / B: ไม่สวม = 62.9%
A/B สวมทั้งคู่ = 95.9%
 
การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าการสวมหน้ากากอนามัยให้กระชับกับใบหน้ามีประสิทธิภาพสูงมากกว่า 95% ทั้งโดยวิธีการสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น (หน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัย) และการผูกสายคล้องหน้ากากอนามัยให้เป็นปม ถึงแม้ว่าเดิมการสวมหน้ากากอนามัยชั้นเดียวจะมีประสิทธิภาพประมาณ 55% เท่านั้น
 
ช่วงนี้ผมทดลองสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นแล้ว ถ้านั่งทำงานปกติ รู้สึกอึดอัดขึ้นไม่มากนัก แต่จะรู้สึกเหนื่อยถ้าออกแรงมากขึ้น เช่น เดินขึ้นบันได และอาจมีปัญหาตอนถอดดื่มน้ำ/รับประทานอาหารที่จะต้องดูแลหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นมาอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งอย่าลืมล้างมือทุกครั้งเมื่อหยิบจับหน้ากากอนามัย
 
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
Improve How Your Mask Protects You https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/your-health/effective-masks.html 
Maximizing Fit for Cloth and Medical Procedure Masks to Improve Performance and Reduce SARS-CoV-2 Transmission and Exposure, 2021 https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/70/wr/mm7007e1.html
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน จป คอมพิวเตอร์ อบรมจปออนไลน์
อบรมจป.-คปอ.ออนไลน์ สมาชิกจ่ายเพียง 1000.- จองอบรมตอนนี้

Comments


businessman

ติดต่อสอบถามคลิกไลน์ Safety In Thai ติดต่อสอบถามคลิกไลน์ Safety In Thai ติดต่อสอบถามคลิกไลน์ Safety In Thai